';
ชมรมพิทักษ์สิ่งแวดล้อมระยอง ร้อง กมธ.อุตสาหกรรม หวั่นโรงงานปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำลำคลอง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน
นายวิชัย เลี่ยมเปี่ยม นายวีระชัย ช้างสาร นายรัฐรุจน์ ปิยะพงศ์ภัทร์ และนายสมศักดิ์ ทรัพย์มั่น ตัวแทนชมรมพิทักษ์สิทธิสิ่งแวดล้อม ภาคพลเมือง จ.ระยอง ได้เข้าพบนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับกรณีที่โรงงานนิรันดร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ เลขที่ 8 หมู่ที่ 2 ถนนบ้านค่าย-บ้านบึง ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และมีการผลิต จำหน่ายกรดมะนาว (กรดซิตริก) กรดอะมิโนชนิดต่างๆ ที่ห้องประชุมกรรมาธิการ N 406 อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้โรงงานนิรันดร์ (ประเทศไทย) จำกัดได้หยุดประกอบกิจการไปแล้ว ภายหลังจากการเกิดเพลิงไหม้ แต่ยังมีสารเคมี รั่วไหลออกมาภายนอก นอกจากนี้ยังพบว่า มีถังแคปซูลเก็บสารเคมีขนาดใหญ่มีสภาพผุผัง ทำให้มีสารเคมีกรดมะนาวรั่วไหล เต็มพื้นปูนภายในโรงงาน และยังมีสารเคมีชนิดต่างๆ ไหลปนเปื้อน ตกค้างภายในโรงงาน ซึ่งอาจแพร่กระจายออกสู่ภายนอก อันอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ที่อาศัยรอบๆ โรงงาน ที่สำคัญอาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของนักลงทุน และการพัฒนาพื้นที่ EEC ตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับโรงงานนิรันดร์ได้ถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ทำการยึดไว้ในคดีล้มละลาย โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียว มีอำนาจในการจัดการโรงงานดังกล่าว ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 แต่เนื่องจากสารเคมีบางส่วนมีลักษณะเป็นสิ่งปฏิกูลตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 กากอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงวัตถุอันตราย ที่ไม่ใช้แล้ว อาจไม่สามารถครอบครองหรือกักเก็บได้ (สก.1)
ประกอบกับเครื่องจักรและอุปกรณ์ภายในโรงงาน ปัจจุบันอาจมีสภาพไม่เพียงพอต่อการประกอบกิจการตามความนัยมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 และประกาศของรัฐมนตรีที่ออกกฎกระทรวง ทั้งนี้หากอุตสาหกรรมจังหวัดระยองพิจารณาแล้ว มีคำสั่งไม่ต่อใบอนุญาติประกอบกิจการโรงงาน และตามความนัยมาตรา 28 ผู้รับใบอนุญาตประสงค์จะเลิกประกอบกิจการให้แจ้งเป็นหนังสือต่อผู้อนุญาตไม่น้อยกว่าสามสิบวัน ก่อนวันเลิกประกอบกิจการ
ในกรณีที่ผู้อนุญาตเห็นว่าโรงงานมีสภาพที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือความเดือดร้อนหรือสิ่งแวดล้อมให้แจ้งผู้รับใบอนุญาตแก้ไข ปรับปรุง หากผู้รับใบอนุญาตไม่ทำตามคำสั่งให้ใช้มาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 ประกอบพื้นที่ตำบลหนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานได้มีการประกาศเป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม การครอบครองวัตถุอันตรายจะต้องดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ผู้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจมีความผิดตามกฎหมาย กรณีดังกล่าวสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ผู้ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535 และตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 มีอำนาจในการยึดหรืออายัดวัตถุอันตรายตามมาตรา 54 (3) แห่งพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535
การยืนหนังสือร้องเรียนในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้กรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ตรวจสอบและพิจารณาเกี่ยวกับสารเคมี วัตถุอันตราย หรือการปนเปื้อนของสารเคมีภายในพื้นที่บริเวณโรงงานนิรันดร์ ที่อาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งภายในและภายนอกโรงงาานได้ จึงอยากให้มีการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันผลกระทบจากสารเคมีกับประชาชนที่อาศัยรอบๆ โรงงานอีกด้วย
ภายหลังจากนายอัครเดช ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว จะเร่งดำเนินการบรรจุในวาระการประชุม พร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจะแจ้งให้ทางชมรมพิทักษ์สิทธิ สิ่งแวดล้อม ภาคพลเมือง จ.ระยองให้ทราบต่อไป.