:ประมวลภาพ:
ตำรวจภาค 2 สั่งลุยคดี ส.ต.อ.แสนสุข หลอกหญิงชราวัย 70 ทำให้สูญเงิน 2.5 แสน เหตุขอให้ช่วยเอาเงินคืนจากการถูกหลอกทางออนไลน์
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (รรท. ผบช.ภ.2) เปิดเผยถึงกรณีที่มีคดีเกี่ยวกับหญิงชราอายุ 70 ปี ถูกตำรวจสังกัด สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี หลอกลวงทำให้สูญเงินไป 250,000 บาท จากการไปการไปแจ้งความว่าถูกหลอกทางออนไลน์รวมเป็นเงินทั้งหมด 2,300,000 บาทว่า ทางพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข ได้ควบคุมตัว ส.ต.อ. คนหนึ่งมาดำเนินคดี ในข้อหาทุจริต หลอกลวงผู้อื่น ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่ 3 ตามมาตรา 341 และผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา หลังจากนั้นได้นำตัวฝากขังศาลจังหวัดชลบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน
ซึ่งคดีดังกล่าว ได้เกิดขึ้นจากหญิงวัย 70 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.แสนสุข ส.ต.อ.ผู้กระทำความผิดกำลังปฏิบัติหน้าที่เสมียนเวรประจำวัน รับแจ้งความ หลังจากนั้น ส.ต.อ.ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหายและบุตรชาย อ้างว่ามีเพื่อนอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) รับผิดชอบคดีอาชญากรรมออนไลน์ และต้องการจะช่วยเหลือโดยวิธีการเอาเกลือจิ้มเกลือ และอ้างว่าเคยช่วยนักศึกษาคนหนึ่งแล้วได้เงินคืน พร้อมยืนยันว่าเป็นวิธีที่ถูกกฎหมาย ทั้งนี้ผู้เสียหายต้องโอนเงินไปสำรองเงินในบัญชีไว้ก่อน เพื่อจะดึงงบสอบสวนออกมาไว้ก่อน และยังอ้างว่าเพื่อนเป็นพนักงานหลังบ้านของธนาคารแห่งหนึ่งอีกด้วย
ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 จึงโอนเงินเข้าบัญชีชื่อ ส.ต.อ.ดังกล่าวจำนวน 150,000 บาท ต่อมา ส.ต.อ.ออกอุบายว่าต้องการเงินสำรองอีก 100,000 บาท ผู้เสียหายจึงโอนเงินเข้าบัญชีเดิมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 รวม 2 ครั้ง จำนวนเงิน 250,000 บาท ต่อมาหญิงวัย 70 ปี ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินคืน จึงได้สอบถามและทวงถามไปยัง ส.ต.อ. ก็ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา
"ต่อมาจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับ ส.ต.อ.คนดังกล่าว ซึ่งจากข้อมูลความผิดชัดเจน ต้องดำเนินคดีทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด พร้อมสืบสวนสอบสวนว่ามีผู้อื่นเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ และจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น ในส่วนคดีที่ผู้เสียหายถูกฉ้อโกง กำชับพนักงานสอบสวนเร่งรัดสอบสวน ส่งประเด็นไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี" พล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวและว่า ขอประชาสัมพันธ์กับพี่น้องประชาชนหากได้รับความไม่เป็นธรรม หรือมีข้อสงสัยการปฏิบัติงานของตำรวจให้ติดต่อสอบถาม แจ้งเหตุมาที่ ผกก.ทุกสถานี ผบก.ภ.จว. หรือแจ้งมาที่ตำรวจภูธรภาค 2 ทางโทรศัพท์ หรือโซเชียลมีเดียได้”พล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าว
ยอดเข้าชม 156 ครั้ง