:ประมวลภาพ:
ศักดา นพสิทธิ์ แจงปัญหาการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้ประธานสภาฯสั่งปิดการประชุม เป็นเรื่องเสนอให้สภาฯได้รับทราบ เพื่อต่อยอดให้ตั้ง กมธ. ถือว่าเรื่องยังไม่สิ้นสุด คาดต้นปี 2568 จะเสนอเข้าสู่สภาอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม นายศักดา นพสิทธิ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมกล่าวถึงกรณีที่มีการนำร่างแนวทางตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งประธานสภาฯสั่งปิดการประชุมว่า ในเรื่องนี้ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ได้มีการประชุมและพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นจึงได้นำสู่สภาฯ เพื่อรับทราบและลงมติ แต่ได้มี ส.ส.เปิดการอภิปรายกันอย่างมากมาย และหาที่สิ้นสุดไม่ได้ จึงทำให้ประธานสภาฯ ปิดการประชุมดังกล่าว
นายศักดากล่าวว่า ในส่วนของเนื้อหากล่าวโดยสรุป การชุมนุมโดยมีมูลเหตุจูงใจที่ต้องการเรียกร้องทางการเมือง โดยสงบและเปิดเผย การกระทำความผิดในช่วงการชุมชน อาทิ ผิด พ.ร.บ.จราจร การขัดขวางเจ้าพนักงาน หรือมีการทำร้ายกันไม่สาหัส และเสียชีวิต พิจารณาให้นิรโทษกรรมได้ ยกเว้นคดีเกี่ยวกับ ม.112 และ ม.110 ให้มีการพิจารณาเป็นคดีๆ ไป หลังจากได้ผลสรุปแล้วจึงได้นำเสนอต่อสภาฯ เพื่อพิจารณา
"ในความเป็นจริงเรื่องนี้เสนอให้สภาฯได้รับทราบเท่านั้น หากมีการลงมติเห็นด้วย ก็จะมีการตั้งกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อไป แต่เมื่อมีผู้อภิปรายจำนวนมาก จนทำให้ปิดการประชุมก่อนลงมติ เรื่องยังไม่ได้จบสิ้นไป แต่จะมีการเสนอขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง คาดว่าจะเป็นต้นปี 2568 เนื่องจากจะมีการปิดสมัยประชุมในเดือนตุลาคมนี้ ทำให้บรรจุวาระการประชุมไม่ทัน" นายศักดากล่าวและว่า ส่วนที่จะมองว่าใครได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ เรื่องนี้ต้องยอมรับว่า แต่ละพรรคการเมืองมีธงอยู่แล้ว โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ ม.112 ก็อยากให้มีการนิรโทษกรรม ส่วนพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคภูมิใจไทย นั้นไม่เห็นด้วยกับ ม.112 จึงต้องออกมาต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
นายศักดากล่าวอีกว่า สำหรับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ยังสามารถตราออกมาเป็นกฎหมายได้ มีทั้งหมด 3 แนวทางคือ สภาผู้แทนราษฎร รัฐบาล และประชาชนเข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยเฉพาะรัฐบาลก็สามารถดำเนินการได้เลย แต่อาจจะติดปัญหาในเรื่องของรัฐบาลผสม จึงไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนในเรื่องบทบาทของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมนั้น เป็นเพียงผู้สรุปข้อมูล เพื่อเป็นแนวทางในการตราร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเท่านั้น.