:ประมวลภาพ:
โชว์หลักฐานเด็ดภาพถ่ายทางอากาศ มัดผู้มีอิทธิพลคนมหาดไทยลักขุดดินขาย เตรียมส่งหลักฐานให้ อนุทิน ชาญวีรกูล เพิ่มเติม พร้อมเอาผิดฐานผู้มีอิทธิพลบุกรุกที่ดินสาธารณะ งัดกฎหมายฟอกเงินยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นายสำเนา บุญทา รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าบุญมี อ. เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้นิติกร แจ้งความเอาผิดผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ลักลอบขุดดินขายในพื้นที่สาธารณะหมู่ 6 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ และนำไปขายให้กับนายทุนจีนที่สร้างโรงงานในพื้นที่ อ.เกาะจันทร์ และพื้นที่ใกล้เคียง สร้างความเสียหายมูลค่าประมาณ 5-6 ล้านบาท ที่ สภ.เกาะจันทร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิด
นอกจากนี้ยังได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งระบุผู้ลงมือกระทำความผิดซึ่งสังกัดกระทรวงมหาดไทย และระบุพยานที่พบการกระทำความผิดอีกด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกในการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงอีกด้วย
ทางด้าน นายรัฐรุจน์ ปิยะพงศ์ภัทร ตัวแทนกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งระบุชัดเจนว่า ก่อนที่จะมีการลักลอบขุดดินไปขายนั้น พบว่าเป็นพื้นที่ดินสภาพสมบูรณ์ ยังไม่มีการขุดเป็นบ่อแต่อย่างใด ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า ได้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขุดดินในพื้นที่สาธารณะไปขาย ซึ่งหลักฐานดังกล่าวจะส่งให้ รมว.มหาดไทยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังพบว่ามีการสร้างเรือนบุกรุกที่สาธารณะอีกด้วย ซึ่งจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายรัฐรุจน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อกฎหมายเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล ที่กระทรวงมหาดไทยจะต้องดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง โดยความหมายของ "ผู้มีอิทธิพล" จะต้องมีองค์ประกอบความผิดประกอบไปด้วยเป็นบุคคลที่กระทำ หรือสั่งการให้มีการละเมิด โดยใช้อำนาจ เงิน ตำแหน่งหน้าที่การงาน ฐานะทางสังคม หรือสิ่งอื่นใด ในการไปคุกคาม กดขี่ ข่มเหง หรือรังแก ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้งทางร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ ชื่อเสียง รวมถึงทรัพย์สิน และการลักลอบขุดดินที่สาธารณะ จะเข้าองค์ประกอบข้อ 2 เป็นบุคคลที่กระทำความผิด 16 มูลฐาน โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) ระบุถึงพฤติการณ์ที่เข้าข่ายเป็น "ผู้มีอิทธิพล"คือ ข้อที่ 2.14 บุกรุกที่ดินสาธารณะ/ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ถือว่าการลักลอบขุดดินที่สาธารณะในพื้นที่หมู่ 6 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ ครบองค์ประกอบความผิดแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษ
"นอกจากนี้ความผิดของผู้มีอิทธิพล ยังไปเข้าความผิดพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (15) ความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม โดยการใช้ ยึดถือ หรือครอบครองทรัพยากรธรรมชาติ หรือกระบวนการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ โดยมิชอบด้วยกฎหมายอันมีลักษณะเป็นการค้า ซึ่งจะส่งผลไปถึงการยึดทรัพย์ของผู้กระทำผิด ให้ตกเป็นของแผ่นดินอีกด้วย" นายรัฐรุจน์กล่าว
ยอดเข้าชม 1749 ครั้ง